ไฮไลท์ อาร์เซนอล VS แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สกอร์ 3-1 ประตู

ไฮไลท์ อาร์เซนอล VS แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สกอร์ 3-1 ประตู พรีเมียร์ลีก

ไฮไลท์ อาร์เซนอล การพบกันระหว่างอาร์เซนอล และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกพรีเมียร์ลีกเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นเต้นและคาดหวังอย่างมากในวงการฟุตบอล เกมนี้เป็นที่สำคัญที่อาร์เซนอลแสดงให้เห็นศักยภาพและความพร้อมในการต่อสู้ในระหว่างการแข่งขันในลีกสูงสุดของอังกฤษ และสิ่งที่น่าจดจำมากที่สุดในเกมนี้ ที่เป็นที่สวยงามของทีมอาร์เซนอล

ในหนึ่งในเกมที่มีความสำคัญและสร้างความตื่นเต้นในประเทศอังกฤษและทั่วโลก อาร์เซนอลและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประชันกันในศึก พรีเมียร์ลีก เป็นเกมที่คอยรอคอยและทั้งสองทีมมีความปรารถนาอย่างมากที่จะคว้าคะแนนเต็มจำนวนและที่สำคัญที่สุด เกมนี้เริ่มขึ้นอย่างมีความสำคัญในสนามฟุตบอลอีมิเรตส์ สเตเดี้ยม แสนเช่นเกมเต็มที่ความคิดคำนวณของแต่ละทีมต้องตั้งใจอย่างสูง การแข่งขันนี้เหมือนการต่อสู้ในสนามรบที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความสู้สุดอย่างจริงจัง

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2023/24 คู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน 2566 “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล เปิดรังเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มเกมมานาทีที่ 13 อาร์เซน่อลเกือบได้เฮจากลูกเปิดทางซ้ายเข้าเขตโทษ กองหลังแมนยูสกัดไม่ดี บอลมาเข้าเท้า ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้ยิงโล่งๆ แต่ดันยิงแป้กอย่างน่าเสียดาย นาที 19 ทีมปืนใหญ่ได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกเตะมุม บูกาโย่ ซาก้า เปิดโด่งไปให้ ดีแคลน ไรซ์ ขึ้นโหม่ง บอลข้ามคานออกไป นาที 27 แมนยูไนเต็ดได้โอกาสลุ้นครั้งแรก และกลายเป็นประตูทันทีจากจังหวะโต้กลับ คริสเตียน อีริคเซ่น จ่ายบอลให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ลากบอลเข้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนที่จะโยกแตะเข้ากลางแล้วหาเหลี่ยมสับไกด้วยขวา ส่งบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ทีมผีแดงออกนำ 1-0 อย่างไรก็ตาม สาวกเรดอาร์มี่กระโดดดีใจยังไม่ทันได้หย่อนบั้นท้ายลงสัมผัสเก้าอี้ อาร์เซน่อลก็ตามตีเสมอได้อย่างรวดเร็วในนาทีต่อมา ชนิดที่แฟนบอลปรับอารมณ์กันไม่ทัน เมื่อ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ จ่ายบอลเรียดจากซ้ายย้อนเข้ากลาง มาร์ติน โอเดการ์ด ตวัดยิงด้วยซ้ายเข้าไปอย่างเฉียบขาดเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ก่อนที่จะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังนาที 59 ไค ฮาแวร์ตซ์ ตัวรุกของอาร์เวน่อล ปะทะกับ อารอน วาน บิสซาก้า ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษแก่เจ้าถิ่น แต่หลังจากวิ่งไปดูภาพจาก VAR แล้ว ท่านเปามองว่าไม่ใช่จังหวะฟาวล์ และริบจุดโทษคืน เล่นเอาแฟนปืนถึงกับเซ็ง ส่วนเด็กผีถอนหายใจอย่างโล่งอก นาที 67 เอริค เทน ฮาก กุนซือแมนยูไนเต็ด ส่ง ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าตัวใหม่ที่คว้ามาจากอตาลันต้าเมื่อช่วงซัมเมอร์ ลงประเดิมสนามนัดแรก โดยลงมาแทน อองโตนี่ มาร์กซิยาล รวมทั้ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ลงมาแทน ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่บาดเจ็บ นาที 81 อาร์เซน่อลเกือบได้ประตูขึ้นนำ เบน ไวท์ ผ่านบอลเรียดจากขวามาให้ บูก้าโย่ ซาก้า ได้แปจ่อๆ แต่บอลไปตรงตัวนายทวาร อังเดร โอนาน่า เซฟช่วยแมนยูเอาไว้ได้ เกมมาถึงนาที 88 แมนฯ ยูไนเต็ด ได้จังหวะสวนกลับ คาเซมิโร่ จ่ายบอลให้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ กระชากบอลหลุดเดี่ยวไปยิงผ่านมือ แรมสเดล เข้าประตูไป แต่ภาพจาก VAR จับว่า การ์นาโช่ ล้ำหน้านิดเดียว ทำให้เด็กผีต้องเฮเก้อกันไป แมนยูชวดได้ประตูขึ้นนำหลังจากนั้น เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยผลเสมอ แต่ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 6 อาร์เซน่อลได้ลูกเตะมุมเปิดโด่งมาที่เสาสอง ดีแคลน ไรซ์ ใช้อกพักบอลลง ก่อนตวัดยิงด้วยขวา บอลไปแฉลบเท้า จอนนี่ อีแวนส์ นิดนึง ก่อนเปลี่ยนทางเข้าประตูไป อาร์เซน่อลแซงนำ 2-1 ต่อมาช่วงทดเจ็บนาทีที่ 11 ทีมปืนใหญ่มาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะจากจังหวะสวนกลับ กาเบรียล เชซุส หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ ก่อนล็อกหลบ ดิโอโก้ ดาโลต์ แล้วยิงเข้าไปอย่างเหนือชั้น จบเกม อาร์เซน่อล ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 ทำให้ทัพเดอะ กันเนอร์ส เก็บเพิ่มเป็น 10 แต้มจาก 4 นัด รั้งอันดับ 5 ของตาราง ส่วน แมนยู รั้งอันดับ 11 มีอยู่ 6 แต้มเท่าเดิม

นี่คือการแสดงสดใหม่ที่ท้าทายและเป็นความสำเร็จสำหรับทีมอาร์เซนอล การเอาชนะทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่มีชื่อเสียงไม่มีค่าเท่าใด โดยเฉพาะในศึกพรีเมียร์ลีก ทีมอาร์เซนอลได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นทีมที่สามารถแข่งขันและเอาชนะทีมใหญ่ในลีก นอกจากนี้ยังเป็นการยืนยันว่าพวกเขายังคงเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวและมีคุณภาพในฤดูกาลนี้ สำหรับแฟนๆ อาร์เซนอล, สกอร์ 3-1 นี้เป็นเหตุการณ์ที่จะถูกจดจำและน่าภุดงานใจเป็นอย่างยิ่ง และอาจจะเป็นเรื่องที่แน่นอนในการท้าทายสำหรับพวกเขาในอนาคต

ห้ามพลาด ไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ได้ที่ลิงค์ >>> GURUBALL24